.

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้เครดิตพินิจ (Rating Watch) ของสหรัฐเป็น “เชิงลบ”  พร้อมระบุว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ AAA เนื่องจากการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งอาจจะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์

 

“การให้เครดิตพินิจเป็นเชิงลบสะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกทางการเมืองที่ทำให้สหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ แม้ว่าขณะนี้ใกล้จะถึงกำหนดเส้นตายการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิ.ย. หรือ “X-date”

 

“เราเชื่อว่าความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ จะทวีความรุนแรงมากขึ้น หากสหรัฐล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ก่อน X-date และผลที่ตามมาก็คือรัฐบาลสหรัฐจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามพันธกรณีทางกฎหมาย” ฟิทช์ระบุในแถลงการณ์

 

อย่างไรก็ดี ฟิทช์ยังคงคาดการณ์ว่า ท้ายที่สุดแล้วทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถตกลงกันได้ก่อนกำหนดเส้นตายวันผิดนัดชำระหนี้

 

แถลงการณ์ดังกล่าวของฟิทช์มีขึ้น หลังจากที่การเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ยังไม่มีความคืบหน้า

 

นายแมคคาร์ธีกล่าวต่อสื่อมวลชนว่า ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้แต่อย่างใด เนื่องจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของอีกฝ่าย โดยทั้งนี้ ปธน.ไบเดนบอกปัดข้อเรียกร้องของนายแมคคาร์ธีที่ต้องการให้มีการปรับลดงบประมาณรายจ่าย ขณะที่นายแมคคาร์ธีก็ปฏิเสธข้อเรียกร้องของปธน.ไบเดนที่ต้องการให้มีการเพิ่มรายได้ของรัฐบาลด้วยการปรับเพิ่มภาษีที่เรียกเก็บจากคนร่ำรวย

 

แม้เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก่อนถึงเส้นตายในวันที่ 1 มิ.ย. แต่นายแมคคาร์ธีกล่าวว่า เขาอาจจะอนุญาตให้คณะเจรจาของเขาออกนอกกรุงวอชิงตัน ดีซี และกลับสู่รัฐของตนเองในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เนื่องจากวันจันทร์ที่ 29 พ.ค.จะเป็นวัน Memorial Day ซึ่งเป็นวันหยุดของสหรัฐ

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์