.

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ต.ค. 65)–ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันอังคาร (25 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังเป็นปัจจัยหนุนตลาด

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,836.74 จุด เพิ่มขึ้น 337.12 จุด หรือ +1.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,859.11 จุด เพิ่มขึ้น 61.77 จุด หรือ +1.63% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,199.12 จุด เพิ่มขึ้น 246.50 จุด หรือ +2.25%

 

ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดตลาดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกำลังสะท้อนให้เห็นว่าการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อนั้น กำลังได้ผล และคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจเหล่านี้จะทำให้เฟดชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดนั้น ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 13% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 15.6% โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

 

ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 102.5 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 106.5 จากระดับ 107.8 ในเดือนก.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

 

นักลงทุนลดการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนธ.ค. หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ และหลังจากเจ้าหน้าที่เฟดเริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 53.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. ลดลงจากเดิมที่เคยให้น้ำหนักมากถึง 75% ส่วนในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

 

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นกลุ่มวัสดุ โดยหุ้นโจนส์ แลง ลาซาลล์ ทะยานขึ้น 2.72% หุ้นอเมริกัน เรียลตี้ อินเวสเตอร์ส บวก 0.69% หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน พุ่งขึ้น 2% หุ้นวัลแคน มาเทเรียลส์ พุ่งขึ้น 4.11%

 

หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ พุ่งขึ้น 3.61% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 2.25 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.88 ดอลลาร์

 

หุ้นโคคา-โคล่า พุ่งขึ้น 2.34% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 69 เซนต์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 64 เซนต์

 

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงแอปเปิล, อัลฟาเบท, แอมะซอน,  ไมโครซอฟท์ และเมตา แพลทฟอร์มส์

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย โดยในวันพุธจะมีการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. ส่วนในวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2565 (ประมาณการเบื้องต้น) และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย. สำหรับวันศุกร์จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์